วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ขนมจ่ามงกุฎ


ขนมไทยมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยคือ มีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน สีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน

ในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่างานทำบุญ เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร ส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาจุ๋มจิ๋ม ประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม

ขนมไทยที่นิยมทำกันทุกๆ ภาคของประเทศไทย ในพิธีการต่างๆ เนื่องในการทำบุญเลี้ยงพระ ก็คือขนมจากไข่ และมักถือเคล็ดจากชื่อและลักษณะของขนมนั้นๆ งานสิริมงคลต่างๆ เช่น งานมงคลสมรส ทำบุญวันเกิด หรือทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะมีการเลี้ยงพระกับแขกที่มาในงาน เพื่อเป็นสิริมงคลของงานขนมก็จะมีฝอยทอง เพื่อหวังให้อยู่ด้วยกันยืดยาว มีอายุยืน ขนมชั้นก็ให้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ขนมถ้วยฟูก็ขอให้เฟื่องฟู ขนมทองเอกก็ขอให้ได้เป็นเอก เป็นต้น

              เนื้อหาของบทความนี้ จะกล่าวถึง ขนมจ่ามงกุฎ เป็น 1 ใน 9 ของ ขนมมงคล 9 อย่าง ประกอบด้วย ขนมชั้น ขนมจ่ามงกุฎ ขนมทองหยิบ ขนมทองหยอด ขนมฝอยทอง ขนมทองเอก ขนมเม็ดขนุน ขนมถ้วยฟู และขนมเสน่ห์จันทร์ ในเบื้องต้น ถึง วิธีการทำ ส่วนผสมค่ะ สำหรับท่านนักอ่าน สามารถนำไปปรับปรุงให้ได้รสชาติตามใจชอบ หรือนำไปพัฒนาสูตร สร้างสรรค์รูปทรง ออกแบบรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ พัฒนาต่อยอดเพื่อหารายได้ต่อไปค่ะ



ความหมาย ขนมมงคล 9 อย่าง

ขนมชั้น                                   ขนมที่แสดงถึงการทำให้ชีวิตการทำให้ชีวิตอนาคตสูงขึ้นเรื่อยๆ
ขนมจ่ามงกุฎ                          ขนมที่แสดงถึงพระมหากษัตริย์พระราชทานให้แก่ข้าราชบริพารที่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง
ขนมทองหยิบ                         ขนมที่แสดงถึงการหยิบจับอะไรเป็นเงินเป็น
ขนมทองหยอด                      ขนมที่แสดงถึงการจับวางอะไรเป็นเงินเป็น
ทองฝอยทอง                         ขนมที่แสดงถึงการทำให้ชีวิตยืนยาวเหมือนเส้นฝอยทอง
ขนมทองเอก                          ขนมที่แสดงถึงความเป็นหนึ่ง
ขนมเม็ดขนุน                         ขนมที่แสดงถึงหนุนเนื่องให้ชีวิตก้าวหน้า
ขนมถ้วยฟู                              ขนมที่แสดงถึงการทำกิจการค้าขายอะไรก็เฟื่องฟู
ขนมเสน่ห์จันทร์                     ขนมที่แสดงถึงความมีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น




ส่วนผสม ขนมจ่ามงกุฎ
  1. เม็ดแตงโมแกะแล้ว 1/2 ถ้วย 
  2. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
  3. น้ำดอกมะลิ 1 ถ้วย
  4. ทองคำเปลวแท้ 2 แผ่น
  5. แป้งสาลี 1 ถ้วย
  6. ไข่แดงของไข่ไก่ 3 ฟอง

วิธีทำขนมจ่ามงกุฎ ทีละขั้นตอน
  1. เชื่อมน้ำตาล โดยใช้น้ำตาลกับน้ำดอกมะลิตั้งไฟให้เดือด กรองด้วยผ้าขาวบาง แล้วตั้งไฟต่ออีก 5 นาที
  2. ล้างขัดกะทะทองเหลืองให้สะอาดเป็นเงา ตะแคงข้างหนึ่ง คั่วเม็ดแตงโมโดยใช้มือจุ่มลง ในน้ำเชื่อม แล้วกวาดไปมา จนน้ำตาลแห้งแล้ว ใช้มือจุ่มน้ำเชื่อม ทำเช่นนี้ต่อไป จนน้ำตาลเกาะเป็นหนามติดเม็ดแตงโมพองาม เก็บใส่ภาชนะอย่าให้อากาศเข้า
  3. ระหว่างที่กวาดเม็ดแตงโมอยู่นั้น ต้องตะแคงกะทะและใช้ ผ้าขาวบางเช็ดกะทะให้สะอาดอยู่เสมอ
  4. นวดแป้งกับไข่แดงจนนิ่มมือ ถ้ายังแห้งอยู่จึงเติมน้ำ แล้ว คลึงแป้งเป็นแผ่นบาง ๆ กดให้กลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซนติเมตร นำแผ่นแป้งที่ตัดแล้ว ใส่ในถ้วยตะไลใช้มือ กดเบา ๆ ให้เป็นรูปก้นถ้วยตะไล ใช้ส้อมจิ้มให้ทั่วจึงเอาไป อบพอสุกกลายเป็นแป้งรองขนม
  5. การทำมงกุฎ ให้เอาน้ำตาลทรายใส่หม้อเล็ก ๆ ใส่น้ำนิด หน่อย ตั้งไฟอ่อน ๆ พอน้ำตาลละลายเอาเม็ดแตงโมที่ กวาดไว้แล้วลงจุ่มให้น้ำตาลติดกับแป้งที่อบไว้รอบ ๆ
  6. ปั้นกลม ๆ วางตรงกลาง ใช้มีดปลายแหลมผ่าเป็น 6 พู เหมือนผลมะยม แล้วปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ เท่าเม็ดถั่วเขียววางบนยอดขนมที่ผ่าไว้ ใช้ทองคำเปลวตัดเป็น สี่เหลี่ยมชิ้นเล็ก ๆ แตะตรงยอดมองเห็นเหมือนมงกุฎ


** เคล็ดลับ **
1. การทำแป้งรองขนมจ่ามงกุฎนั้นบางครั้งก็ต้องเติมน้ำและบางครั้ง ก็ไม่ต้องเติม ทั้งนี้แล้วแต่น้ำในไข่ที่ใช้นั่นเอง
2. ทองคำเปลว ต้องแน่ใจว่าเป็นของแท้ เพราะถ้าเป็นของปลอม จะเป็นอันตรายมาก เนื่องจากสารตะกั่ว















เป็นอย่างไรค่ะ สำหรับขนมจ่ามงกุฎ ขนมไทยๆ บ้านเรา ประณีตสวยงาม มากๆ ถ้าได้กินคงอร่อยมากแน่เลยค่ะ

หากบทความนี้มีประโยชน์ต่อคุณ อย่าลืมทำสิ่งดีๆ แบ่งปันให้เพื่อนๆของคุณ โดยคลิกแชร์ด่านล่างค่ะ

2 ความคิดเห็น: